พยากรณ์โรค ของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ความรุนแรงของผู้ป่วยโควิด-19 ที่ได้รับการวินิจฉัยในประเทศจีน[183]
อัตราป่วยตายแบ่งตามกลุ่มอายุ:
  ประเทศจีน จนถึง 11 กุมภาพันธ์ 2563[184]
  ประเทศเกาหลีใต้ จนถึง 17 กรกฎาคม 2563[185]
  ประเทศสเปน จนถึง 18 พฤษภาคม 2563[186]
  ประเทศอิตาลี จนถึง 3 มิถุนายน 2563[187]
อัตราป่วยตายในประเทศจีนโดยขึ้นกับปัญหาสุขภาพอื่น ข้อมูลถึง 11 กุมภาพันธ์ 2563[184]
จำนวนผู้เสียชีวิตต่อผู้ป่วยทั้งหมดแบ่งตามประเทศ และอัตราป่วยตายโดยประมาณ[188]

ความรุนแรงของโควิด-19 มีหลายระดับ โรคอาจดำเนินแบบเบาโดยไม่มีอาการหรือมีอาการเพียงเล็กน้อย โดยคล้ายกับโรคทางเดินหายใจส่วนบนที่พบทั่วไปอย่างอื่น เช่น โรคหวัด ผู้ป่วยเบาตรงแบบหายดีภายในสองสัปดาห์ ส่วนผู้ป่วยรุนแรงหรือวิกฤตอาจใช้เวลาหายสามถึงหกสัปดาห์ ในบรรดาผู้เสียชีวิตนั้น เวลาตั้งแต่เริ่มมีอาการถึงเสียชีวิตอยู่ระหว่างสองถึงแปดสัปดาห์[38]

เด็กไวต่อโรค แต่มีแนวโน้มมีอาการรุนแรงน้อยกว่า และมีโอกาสเป็นโรครุนแรงน้อยกว่าผู้ใหญ่ ในผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 50 ปีมีโอกาสเสียชีวิตน้อยกว่า 0.5% ส่วนผู้อายุมากกว่า 70 ปีมีโอกาสมากกว่า 8%[189][190][191] หญิงมีครรภ์อาจมีความเสี่ยงติดโควิด-19 รุนแรงสูงกว่าโดยอาศัยข้อมูลจากไวรัสคล้ายกัน อย่างโรคซาร์สและเมอส์ แต่ยังขาดข้อมูลสำหรับโควิด-19[192][193]

บางการศึกษาพบว่า อัตราส่วนนิวโทรฟิลต่อเม็ดเลือดขาว (NLR) อาจมีประโยชน์ในการตรวจคัดกรองการป่วยรุนแรงเบื้องต้น[194]

ผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิตจำนวนนมากมีโรคพื้นเดิม เช่น ความดันโลหิตสูง, โรคเบาหวานและโรคระบบหัวใจและหลอดเลือด[195] Istituto Superiore di Sanità รายงานว่าจาก 8.8% ของผู้เสียชีวิตที่มีเวชระเบียนให้ทบทวน ผู้ป่วยที่ได้รับสุ่มตัวอย่าง 97.2% มีโรคร่วมอย่างน้อยหนึ่งโรค โดยผู้ป่วยมีโรคร่วมเฉลี่ยคนละ 2.7 โรค[196] ตามรายงานเดียวกัน ระยะเวลามัธยฐานระหว่างเริ่มต้นมีอาการและเสียชีวิตคือ 10 วัน โดยห้าวันเป็นวันที่รับรักษาในโรงพยาบาล อย่างไรก็ดี ผู้ป่วยที่ได้รับการย้ายเข้า ICU มีเวลามัธยฐาน 7 วันตั้งแต่รับรักษาในโรงพยาบาลและเสียชีวิต ในการศึกษาผู้ป่วยช่วงต้น เวลามัธยฐานตั้งแต่แสดงอาการเริ่มแรกถึงเสียชีวิตคือ 14 วัน โดยมีพิสัยระหว่าง 6 ถึง 41 วัน[197] ในการศึกษาโดยคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (NHC) ของจีน ชายมีอัตราตาย 2.8% ส่วนหญิงมีอัตราตาย 1.7%[198] การตรวจทางจุลพยาธิวิทยาของตัวอย่างปอดหลังเสียชีวิตแสดงให้เห็นความเสียหายของถุลมแบบแผ่กระจาย (diffuse alveolar damage) โดยมีสิ่งซึมเยิ้มขึ้นไฟโบรมิกซอยด์ของเซลล์ (cellular fibromyxoid exudates) ในปอดสองข้าง การเปลี่ยนแปลงที่เกิดพยาธิสภาพต่อเซลล์ (cytopathic) ของไวรัสสังเกตได้ในเซลล์ปอด ภาพปอดจะดูคล้ายกลุ่มอาการหายใจลำบากเฉียบพลัน (ARDS)[38] ในผู้เสียชีวิต 11.8% ที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนรายงาน พบความเสียหายต่อหัวใจโดยมีระดับโทรโปนินสูงขึ้นหรือหัวใจหยุด[39] จากข้อมูลเมื่อเดือนมีนาคม 2563 จากสหรัฐ 89% ของผู้ได้รับรักษาในโรงพยาบาลมีโรคพื้นเดิม[199]

ความพร้อมของทรัพยากรการแพทย์และเศรฐกิจสังคมของภูมิภาคหนึ่งอาจมีผลต่ออัตราตาย[200] การประมาณอัตราตายจากโรคแตกต่างกันได้อันเนื่องจากความแตกต่างของภูมิภาค[201] แต่ยังมีสาเหตุมาจากความลำบากใน ระเบียบวิธีของข้อมูลด้วย การนับผู้ป่วยอาการเบาน้อยกว่าจริงอาจทำให้ประมาณอัตราตายสูงเกิน[202] อย่างไรก็ดีข้อเท็จจริงที่ว่าการเสียชีวิตเป็นผลของผู้ป่วยที่ติดโรคในอดีตอาจหมายความว่าอัตราตายประมาณได้ต่ำเกิน[203][204] ผู้สูบบุหรี่มีโอกาสเกิดอาการรุนแรงของโควิด-19 คิดเป็น 1.4 เท่าและมีโอกาสต้องการการอภิบาลหรือเสียชีวิตคิดเป็น 2.4 เท่าเมื่อเทียบกับผู้ไม่สูบบุหรี่[205]

มีการยกข้อกังวลเกี่ยวกับผลตามระยะยาวของโรค องค์การโรงพยาบาลฮ่องกงพบว่าสมรรถภาพปอดลดลง 20% ถึง 30% ในผู้ป่วยบางรายที่หายจากโรค และการสแกนปอดพบความเสียหายต่ออวัยวะ[206] เหตุนี้ยังอาจนำไปสู่กลุ่มอาการหลังการอภิบาลหลังหายแล้ว[207]

อัตราป่วยตาย (%) ตามอายุและประเทศ
อายุ0-910-1920-2930-3940-4950-5960-6970-7980-8990+
ประเทศจีน ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์[184]0.00.20.20.20.41.33.68.014.8
เดนมาร์กเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม[208]0.24.116.627.648.1
อิตาลีเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม[209]0.20.00.10.30.92.710.625.832.029.2
เนเธอร์แลนด์เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม[210]0.00.20.10.30.51.78.125.532.733.9
เกาหลีใต้ ณ วันที่ 24 พฤษภาคม[211]0.00.00.00.20.20.82.810.926.3
สเปนเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม[212]0.20.30.20.30.61.44.914.321.022.3
สวิตเซอร์แลนด์ ณ วันที่ 20 พฤษภาคม[213]0.00.00.00.10.10.63.311.527.9
อัตราป่วยตาย (%) ตามอายุในสหรัฐ
อายุ0-1920-4445-5455-6465-7475-8485 +
สหรัฐ ณ วันที่

16 มีนาคม

0.00.1-0.20.5-0.81.4-2.62.7-4.94.3-10.510.4-27.3
หมายเหตุ: ขอบเขตล่างรวมผู้ป่วยทุกราย ขอบเขตบนไม่นับรวมผู้ป่วยที่ขาดข้อมูล
พยากรณ์โรคโดยประมาณตามอายุและเพศโดยอาศัยผู้ป่วยจากประเทศฝรั่งเศสและเรือ ไดอะมันด์ปรินเซส[214]
ร้อยละของผู้ติดเชื้อที่รับรักษาในโรงพยาบาล
0–1920–2930–3940–4950–5960–6970–7980+รวม
หญิง0.2
(0.1–0.3)
0.6
(0.3–0.9)
1.1
(0.7–1.8)
1.6
(0.9–2.4)
3.2
(1.9–4.9)
6.2
(3.7–9.6)
9.6
(5.7–14.8)
23.6
(14.0–36.4)
3.2
(1.9–5.0)
ชาย0.2
(0.1–0.3)
0.7
(0.4–1.1)
1.4
(0.9–2.2)
1.9
(1.1–3.0)
3.9
(2.3–6.1)
8.1
(4.8–12.6)
13.4
(8.0–20.7)
45.9
(27.3–70.9)
4.0
(2.4–6.2)
รวม0.2
(0.1–0.3)
0.6
(0.4–1.0)
1.3
(0.8–2.0)
1.7
(1.0–2.7)
3.5
(2.1–5.4)
7.1
(4.2–11.0)
11.3
(6.7–17.5)
32.0
(19.0–49.4)
3.6
(2.1–5.6)
ร้อยละของผู้ป่วยรับรักษาในโรงพยาบาลที่เข้าหน่วยอภิบาล
0–1920–2930–3940–4950–5960–6970–7980+รวม
หญิง16.7
(14.4–19.2)
8.6
(7.5–9.9)
11.9
(10.9–13.0)
16.6
(15.6–17.7)
20.7
(19.8–21.7)
23.1
(22.2–24.0)
18.7
(18.0–19.5)
4.2
(4.0–4.5)
14.3
(13.9–14.7)
ชาย26.9
(23.2–31.0)
14.0
(12.2–15.9)
19.2
(17.6–20.9)
26.9
(25.3–28.5)
33.4
(32.0–34.8)
37.3
(36.0–38.6)
30.2
(29.2–31.3)
6.8
(6.5–7.2)
23.1
(22.6–23.6)
รวม22.2
(19.2–25.5)
11.5
(10.1–13.2)
15.9
(14.6–17.3)
22.2
(21.0–23.5)
27.6
(26.5–28.7)
30.8
(29.8–31.8)
24.9
(24.1–25.8)
5.6
(5.3–5.9)
19.0
(18.7–19.44)
ร้อยละของผู้ที่รับรักษาในโรงพยาบาลแล้วเสียชีวิต
0–1920–2930–3940–4950–5960–6970–7980+รวม
หญิง0.5
(0.2–1.1)
0.9
(0.5–1.3)
1.5
(1.2–1.9)
2.6
(2.3–3.0)
5.2
(4.8–5.6)
10.1
(9.5–10.6)
16.7
(16.0–17.4)
25.2
(24.4–26.0)
14.4
(14.0–14.9)
ชาย0.7
(0.3–1.5)
1.3
(0.8–1.9)
2.2
(1.7–2.7)
3.8
(3.4–4.4)
7.6
(7.0–8.2)
14.8
(14.1–15.6)
24.6
(23.7–25.6)
37.1
(36.1–38.2)
21.22
(20.8–21.7)
รวม0.6
(0.3–1.3)
1.1
(0.7–1.6)
1.9
(1.5–2.3)
3.3
(2.9–3.7)
6.5
(6.0–7.0)
12.6
(12.0–13.2)
21.0
(20.3–21.8)
31.6
(30.9–32.4)
18.1
(17.8–18.4)
ร้อยละของผู้ติดเชื้อแล้วเสียชีวิต  – อัตราติดเชื้อตาย (IFR)
0–1920–2930–3940–4950–5960–6970–7980+รวม
หญิง0.001
(<0.001–0.002)
0.005
(0.002–0.009)
0.02
(0.01–0.03)
0.04
(0.02–0.07)
0.2
(0.1–0.3)
0.6
(0.4–1.0)
1.6
(1.0–2.5)
5.9
(3.5–9.2)
0.5
(0.3–0.7)
ชาย0.001
(<0.001–0.003)
0.008
(0.004–0.02)
0.03
(0.02–0.05)
0.07
(0.04–0.1)
0.3
(0.2–0.5)
1.2
(0.7–1.9)
3.3
(2.0–5.1)
17.1
(10.1–26.3)
0.8
(0.5–1.3)
รวม0.001
(<0.001–0.002)
0.007
(0.003–0.01)
0.02
(0.01–0.04)
0.06
(0.03–0.09)
0.2
(0.1–0.36)
0.9
(0.5–1.4)
2.4
(1.4–3.7)
10.1
(6.0–15.6)
0.7
(0.4–1.0)
จำนวนในวงเล็บคือ ช่วงความเชื่อมั่น 95% สำหรับค่าประมาณ

ภูมิคุ้มกัน

ณ เดือนเมษายน 2563 ยังไม่ทราบว่าการติดเชื้อในอดีตก่อให้เกิดภูมิตุ้มกันที่มีประสิทธิภาพและคงอยู่ระยะยาวในบุคคลที่หายจากโรคหรือไม่[215][216] มีรายงานว่าผู้เคยติดเชื้อบางคนเกิดสารภูมิต้านทานป้องกันโรค ฉะนั้นจึงสันนิษฐานว่าภูมิคุ้มกันแบบรับมามีความเป็นไปได้ โดยอาศัยข้อมูลจากพฤติกรรมของไวรัสโคโรนาชนิดอื่น[217] มีรายงานผู้ป่วยที่หายจากโควิด-19 ที่ติดตามแล้วการทดสอบไวรัสโคโรนาเป็นบวกในภายหลัง[218][219][220][221] อย่างไรก็ดี เชื่อว่าเป็นการติดเชื้อนาน (lingering) มากกว่าการติดเชื้อซ้ำ[221] หรือเป็นผลบวกลวงเนื่องจากชิ้นส่วนอาร์เอ็นเอที่หลงเหลืออยู่[222] การสอบสวนบุคคล 285 คนโดย CDC เกาหลีซึ่งผลตรวจ SARS-CoV-2 ในการทดสอบ PCR เป็นบวกหลังหายโควิด-19 แล้วหลายวันถึงหลายสัปดาห์ไม่พบหลักฐานว่าปัจเจกเหล่านี้ติดต่อทางสัมผัสในช่วงเวลาหลังนี้[223] ไวรัสโคโรนาชนิดอื่นบางตัวที่ยังติดเชื้อในมนุษย์สามารถติดเชื้อซ้ำได้หลังเวลาผ่านไป 1 ปี[224][225]

แหล่งที่มา

WikiPedia: โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 http://www.bccdc.ca/resource-gallery/Documents/Gui... http://weekly.chinacdc.cn/en/article/id/e53946e2-c... http://en.nhc.gov.cn/2020-02/07/c_76337.htm http://rs.yiigle.com/yufabiao/1181998.htm http://www.columbia.edu/~jls106/galanti_shaman_ms_... http://med.stanford.edu/content/dam/sm/id/document... //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/18478118 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/20197533 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/22563403 //pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/30463995